Loading...

HEALTH CORNER

อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี

โรคกระดูกคอเสื่อม ภัยของคนวัยกลางคน

หมอนรองกระดูกสันหลังมีส่วนประกอบของน้ำ เปลี่ยนจาก 88% เป็น 70% ทำให้หมองรองกระดูกสันหลังแฟบลง และมีความยืดหยุ่นลดลง ส่งผลให้ส่วนอื่นที่อยู่รอบข้างต้องรับแรงกระแทกมากขึ้น จึงมีหินปูนมาเกาะกระดูก และเอ็นพังผืดต่างๆ ทำให้หนาตัวขึ้น มากดเส้นประสาท มักเกิดตรงบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ เช่น หลังคอ และหลังเอว

 

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนขึ้นไป มักจะมีการเสื่อมที่กระดูกสันหลัง หากใครเกิดมามีช่องที่เส้นประสาทกว้างมากเป็นทุนเดิม แม้มีการเสื่อมมา ก็ไม่มีอาการอะไร เพราะเส้นประสาทไม่ถูกกดมาก แต่ถ้ามีช่องที่เส้นประสาทแคบพอดีๆ อยู่แล้ว เมื่อมีอาการเสื่อมเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเกิดอาการได้

 

ลักษณะอาการของโรคกระดูกคอเสื่อม หินปูนที่เกาะกระดูกและเอ็นจะไปกดเส้นประสาท อาการที่พบบ่อยคือ ปวดคอร้าวไปยังแขน และชาที่แขน มักปวดหลังคอบริเวณ 2 ข้างของกระดูกสันหลัง อาจปวดร้าวขึ้นไปถึงท้ายทอย หรือลงมาบริเวณสะบัก และปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือออกแรง

 

ถ้ามีการกดเส้นประสาทใด จะมีอาการปวดร้าวไปตามบริเวณที่เส้นประสาทซึ่งถูกกดวิ่งไปเลี้ยง อาการนี้มักจะเป็นๆหายๆ แบบเรื้อรัง โดยระดับกระดูกคอที่มีการเสื่อมบ่อยมากคือ กระดูกข้อที่ 5-6 และข้อที่ 6-7 ดังนั้นเส้นประสาทที่ถูกกดคือ เส้นประสาทคอเส้นที่ 6 และเส้นประสาทคอเส้นที่ 7

 

ถ้ามีการกดประสาทไขสันหลังขึ้น จะมีอาการค่อยๆ อ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี จนกระทั่งเดินไม่ได้ แต่ในระยะเริ่มต้นมักมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น เดินไม่คล่อง ทำของหล่นจากมือบ่อยๆ เมื่อเป็นมากขึ้น จะเดินขากาง โน้มตัวไปข้างหน้า ในที่สุดจะเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น

 

เมื่อทำการตรวจร่างกาย จะพบกล้ามเนื้อมือลีบลงและอ่อนแรงลง กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง มีอาการปวดแบบไฟฟ้าช็อต สำหรับการวินิจฉัยเพื่อรักษานั้น

 

เมื่อคนอายุมากส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกคอที่เห็นได้จากภาพรังสี การวินิจฉัยโรคนี้ต้องซักประวัติและตรวจร่างกาย อาการทุกอย่างต้องเข้าได้กับภาพทางรังสี และภาพทางคอมพิวเตอร์แม่เหล็ก (MRI)

 

ที่มา : ผศ.นพ.ทวีศักดิ์ จันทร์วิทยานุชิต ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และรามาแชนแนล