อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
ดังนั้นผู้ดูแลจึงควรศึกษาและหาวิธีการสื่อสารให้เข้าใจ
โดยทั่วไปผู้สูงอายุ ที่มีภาวะสมองเสื่อมจะมีปัญหาการรู้คิด อารมณ์ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ดังนั้นผู้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจทักษะการดูแล และการสื่อสารที่ดีกับผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้สามารถดูแลผู้ป่วยทั้งในการทำกิจวัตรประจำวัน ความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต อารมณ์ และพฤติกรรม ได้อย่างมีคุณภาพและลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้
การสื่อสารที่ดีกับผู้ป่วยสมองเสื่อม ควรใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายและแสดงท่าทางที่เหมาะสมอย่างอ่อนโยนเวลาสนทนาควรพูดกับผู้ป่วยโดยอยู่ทางด้านหน้า สบสายตากันอย่างเหมาะสม
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาด้านสายตาและการได้ยิน ควรให้ผู้ป่วยใส่แว่นตาและเครื่องช่วยฟังให้เรียบร้อยก่อนเริ่มการสนทนา
ระดับเสียงที่พูด ต้องฟังชัดและนุ่มนวลพูดช้าๆ ใช้ศัพท์และประโยคที่เข้าใจง่ายเป็นขั้นตอน ไม่ใช้ประโยคที่ซับซ้อนเกินไป ให้เวลาผู้ป่วยนึกคิด
ถ้าผู้ป่วยไม่เข้าใจหรือหลงลืมสิ่งที่พูดไป อาจต้องพูดซ้ำและต้องปรับปรุงคำพูดให้เข้าใจง่ายกรณีที่ต้องการให้ผู้ป่วยทำสิ่งใด ให้ใช้ประโยคเชิญชวนแทนประโยคคำสั่ง
ส่วนการแสดงออกนั้น ไม่ว่าจะเป็นสายตา น้ำเสียง ท่าทาง ควรแสดงด้วยท่าทีอ่อนโยน อ่อนน้อม ไม่คุกคาม และเร่งรีบเกินไป หลีกเลี่ยงการโต้เถียง อาจใช้วิธีรับฟัง หรือเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น เพื่อลดอารมณ์การปะทะกัน
เป็นธรรมดาในการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม อาจมีขุ่นข้องใจบ้าง เพราะธรรมชาติของโรคนี้ มีแต่จะเสื่อมลง อาจช้าหรือเร็ว แต่จะไม่หาย
ฉะนั้นผู้ดูแลผู้ป่วย จะต้องรู้จักผ่อนคลาย ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญ หมออยากให้ผู้ดูแลทุกคนมี 4 ข้อ ดังต่อไปนี้ คือ ความรัก ความเข้าใจความอดทน และใจเย็น ซึ่งถือเป็นยาขนานเอกที่จะช่วยให้การอยู่ร่วมกันในแต่ละวันของผู้ดูแลและผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีคุณค่า
บทความโดย : อ.พญ.ปทุมพร สุรอรุณสัมฤทธิ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์