อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราสระผมและบำรุงผมให้ถูกวิธี ก็ลดผมร่วงได้เป็น แถมช่วยดูแลหนังศีรษะให้กลับแข็งแรงอีกด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่า
1.ใช้น้ำที่อุณหภูมิห้องสระผม
อุณหภูมิห้อง คือ อุณหภูมิน้ำปกติ ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดจนเกินไป เพราะจะทำให้หนังศีรษะแห้งและสูญเสียน้ำมันที่จะมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ทำให้เส้นผม และหนังศีรษะขาดสมดุลความชุ่มชื้น เส้นผมขาดหลุดร่วงง่าย แถมยังอาจมีรังแคกวนใจอีกด้วย
2.ไม่สระผมบ่อยจนเกินไป
ปกติแล้วหนังศีรษะของเราจะสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผมของเราให้ชุ่มชื้น มันวาว การที่เราไปสระผมบ่อยๆ จะไปชะล้างน้ำมันบนหนังศีรษะทำให้ผมแห้งเสีย
ที่สำคัญ เมื่อหนังศีรษะแห้ง กลไกของร่างกายก็ยิ่งสร้างน้ำมันมากขึ้นเพื่อปรับสมดุลไม่ให้หนังศีรษะมากเกินไป กลายเป็นหนังศีรษะยิ่งมันขึ้นเรื่อยๆ พอยิ่งมัน ก็ยิ่งสระ ยิ่งสระ ก็ยิ่งมัน
เป็นปัญหาหนังศีรษะมันที่ไม่หายสักที แถมบางคนอาจหนังศีรษะแห้งจนหลุดลอกกลายเป็นรังแคอีกด้วย ดังนั้นสระผมแต่พอประมาณ ถ้าไม่ได้เหงื่อออกมากจริงๆ ควรสระ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์
3.เลี่ยงผลิตภัณฑ์ SLS
สาร SLS หรือเรียกเต็มๆ ว่า Sodium Lauryl Sulfate เป็นสารทำความสะอาดที่ทำให้เกิดฟอง พบได้ทั่วไปในแชมพูหลายๆ ยี่ห้อ สารตัวนี้มักก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้หนังศีรษะแห้งได้
เพราะ SLS นี้จัดเป็นสารทำความสะอาดในกลุ่มที่รุนแรงที่สุด พอระคายเคืองแล้ว อาการที่ตามมาก็คือ ผมร่วงนั่นเอง แถมบางคนอาจมีอาการคันหรือเป็นผื่นแดงได้
ดังนั้นควรเลือกแชมพูที่ระบุว่า SLS Free หรือให้ปลอดภัยสุดๆ เลือกแบบ Organic ไปเลยจ้า รับรอง ดีต่อเส้นผมและหนังศีรษะแน่นอน
4.ผสมแชมพูกับน้ำบนฝ่ามือก่อนสระ
การที่สารเคมีเข้มข้นสัมผัสกับผิวหนังศีรษะโดยตรง อาจนำไปสู่อาการการระคายเคืองได้ หรือถ้าล้างออกไม่หมดจะทำให้มีสารเคมีตกค้าง และอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ เป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้ ดังนั้นควรเจือจางแชมพูบนฝ่ามือด้วยน้ำก่อนทุกครั้ง
5.ใช้ปลายนิ้วกดนวดเบาๆ
การเกาจะทำให้หนังศีรษะเป็นแผล และไปกระตุ้นให้เกิดรังแคได้ วิธีที่ถูกต้องคือ ใช้ปลายนิ้วกดนวดเบาๆ ที่หนังศีรษะเพื่อให้สารบำรุงต่างๆ ซึมเข้าสู่หนังศีรษะได้ดี อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตที่หนังศีรษะด้วย
6.ลงครีมนวดที่ปลายผม
หากครีมนวดตกค้างอยู่บนหนังศีรษะหรือโคนผม จะทำให้รูขุมขนอุดตัน ทำให้ผมร่วงและผมมันได้ ดังนั้นการใช้ครีมนวดที่ถูกวิธีคือ ลงครีมนวดที่ปลายผมซึ่งเป็นส่วนที่มีอายุมากที่สุดและเสียมากที่สุดค่า
7.ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำเบาๆ
พอสระผมเสร็จนำผ้าขนหนูมาขยี้หัวรัวๆ แบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ผมร่วง ผมพันกันและไม่เป็นทรงเวลาที่ผมแห้ง วิธีที่ถูกคือ ใช้ผ้าขนหนูซับผมเบาๆ และลูบจากบนลงล่าง
8.ไม่ใช้ลมร้อนเป่าผม
เพราะความร้อนจะทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นและนำไปสู่ปัญหาผมเสียแห้งกรอบ ขาดร่วงได้ ถ้าอยากให้ผมแห้งไวๆ แนะนำให้เป่าด้วยลมเย็น หรือปล่อยให้แห้งเองธรรมชาติ
9.บำรุงผมด้วยเซรั่มหรือน้ำมันหลังการสระทุกครั้ง
เวลาที่เราสระผม นอกจากแชมพูจะกำจัดสิ่งสกปรกออกไปแล้ว ยังชำระล้างน้ำมันบนเส้นผมและหนังศีรษะของเราไปอีกด้วย ดังนั้นหลังสระผม เราควรบำรุงผมด้วยน้ำมันหรือเซรั่มหลังสระผมทุกครั้ง ขณะผมแห้งหมาดๆ
10.เลี่ยงการหวีผมขณะผมเปียก
เวลาผมเปียกรากผมอ่อนแอที่สุด เพราะเส้นผมที่เปียกจะพองตัวและพันกัน อีกทั้งหนังกำพร้าบนศีรษะจะยังเปิดอยู่ เมื่อเราหวีผมจะทำให้เกิดการเสียดสีกัน หรือผมเกี่ยวพันกับแปรง ยิ่งออกแรงหวีแรงๆ หรือหวีซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ ครั้ง จะทำให้หนังศีรษะได้รับความเสียหาย และผมขาดร่วงเป็นจำนวนมาก หากต้องการสางผมที่พันกันควรใช้หวีซี่ห่าง โดยค่อยๆ เฉพาะปลายผมที่พันกันทีละช่อ
11.หวีผมจากปลายไปโคนผม
ใครที่ชอบหวีผมจากโคนมาปลายผมรวดเดียว แถมใช้แรงกระชากหวีเวลาสางไม่ออก ต้องรีบเปลี่ยนวิธีหวีผมด่วน เพราะการหวีจากโคนมาปลายผมจะทำให้เราออกแรงดึงมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อผมพันกัน
พฤติกรรมเหล่านี้ จะทำให้ผมขาดระหว่างเส้น หรือบางทีหลุดมาตั้งแต่รากผม แถมอาจทำให้หนังศีรษะถลอกอีกด้วย
วิธีที่ถูกต้องคือค่อยๆ สางทีละช่อจากปลายผมแล้วไล่ขึ้นไปยังโคนผม จะช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม และไม่ทำร้ายหนังศีรษะด้วย
12.ไม่สระผมตอนกลางคืน
ไม่แนะนำให้สระผมตอนกลางคืน เพราะหากนอนทั้งๆ ที่ผมยังไม่แห้งสนิท จะทำให้ผมและหมอนอับชื้น เป็นรังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ตื่นมาพร้อมกับกระจุกผมเต็มหมอน แถมจะทำให้เป็นหวัดอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.aloexhair.com