Loading...

HEALTH CORNER

อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี

นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

สาเหตุของการนอนไม่หลับอาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลัก คือ ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ทำให้หลับตื้นขึ้น หลับไม่สนิทเหมือนวัยหนุ่มสาว


ทำให้บางครั้งคิดว่านอนไม่หลับ ทั้งๆ ที่หลับ แต่หลับตื้นๆ ตื่นง่าย นอกจากนั้นความต้องการของร่างกายที่ต้องการหลับยาวๆ อาจลดลง

 

ลองสังเกตดูว่ามี อาการง่วงนอนในตอนกลางวันหรือไม่ ถ้าไม่มีก็น่าจะหลับได้เพียงพอ อีกอย่างหนึ่งที่พบได้ คือ การที่ผู้สูงอายุมักง่วง และเข้านอนเร็วกว่าปกติ เช่น เข้านอนเวลาสองทุ่ม (20.00 น.) และตื่นเร็วกว่าปกติ เช่น ตื่นตอนตี 2 ตี 3 แล้วไม่หลับอีก

 

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากความเครียด คิดกังวลมาก หรือมีอาการซึมเศร้าเบื่อหน่าย อาจทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน 

 

รวมถึงอาจมีความเจ็บป่วยของร่างกายทำให้ต้องตื่นขึ้นมาในตอนดึกแล้วหลับต่อได้ยาก เช่น มีต่อมลูกหมากโตหรือเป็นโรคเบาหวาน ต้องตื่นมาปัสสาวะหลายครั้ง จึงทำให้นอนไม่หลับ บางคนมีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก เป็นตะคริว ทำให้ต้องตื่นมาตอนดึก เป็นต้น

 

ตลอดจนบางครั้งอาจเกิดจากยาบางชนิดที่รับประทานส่งผลให้นอนไม่หลับได้ เช่น รับประทานยาแก้คัดจมูก ยาขยายหลอดลม เป็นต้น

 

อีกสาเหตุที่สำคัญ คือ การที่นอนพักผ่อนมากเกินไปในตอนกลางวัน หรือรับประทาน ชา กาแฟมาก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน

 

สำหรับผู้สูงอายุที่นอนไม่หลับ แต่ต้องการรับประทานยานอนหลับช่วยในการนอน ก่อนจะรับประทานยานอนหลับ ลองปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเหล่านี้ก่อน คือ อย่าเข้านอนเร็วเกินไป กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนที่แน่นอน ออกกำลังกายที่เหมาะสมในระหว่างวัน

 

หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหักโหมในช่วงเย็น จัดสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิของห้องให้พอเหมาะ ไม่มีเสียงดังรบกวน ไม่มีแสงจ้าในช่วงที่นอน ไม่ควรเข้านอนในขณะที่กำลังหิว อาจดื่มนมอุ่นๆ หรือรับประทานของว่างอย่ารับประทานอาหารอิ่มเกินไปก่อนนอน

 

หลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในช่วงอาหารมื้อเย็น  และอย่าดื่มน้ำมากก่อนนอนเพราะจะทำให้ต้องตื่นมาปัสสาวะบ่อยขึ้น ควรหากิจกรรมอื่นทำที่ทำให้ง่วงหลับได้ ไม่ควรอ่านหนังสือ หรือดูโทรทัศน์บนเตียงนอน โดยใช้เตียงสำหรับการนอนหลับเท่านั้น

 

อาจเปิดเพลงเบาๆ หรือนวดเพื่อผ่อนคลายก่อนนอน หลีกเลี่ยงการงีบหลับในเวลากลางวัน ออกรับแสงแดดระหว่างวันและในช่วงเย็น

 

รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องมืดๆ ระหว่างวัน เข้านอนเมื่อมีอาการง่วง หากยังไม่ง่วงไม่ควรอยู่บนเตียง หากปฏิบัติตามนี้แล้วไม่ได้ผลแล้วจึงค่อยปรึกษาแพทย์

 

 

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา โดย รศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม โรงพยาบาล