อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
ข้อเข่านั้นถูกกระทบกระเทือนได้ง่ายและทำงานหนัก คอยแบกรับน้ำหนักของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเวลายืน วิ่ง หรือเดิน อาการมีตั้งแต่ บวม ปวด แดง ร้อน อักเสบ จนถึงกล้ามเนื้อหด สร้างความเจ็บปวดในทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศชายถึง 3 เท่า Kaijeaw.com มีวิธีดูแลตัวเองอย่างง่ายๆ มาฝาก ควบคู่ไปกับการรักษาที่ถูกต้อง
1.ลดการใช้เข่า เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ คุกเข่า นั่งขัดสมาธิ
2.พยายามลดน้ำหนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เพื่อลกความหนัก แรงกดทับที่ข้อเข่าลง
3.ควรนั่งบนเก้าอี้สูงระดับเข่า ให้เมื่อเวลานั่งห้อยขาแล้วฝ่าเท้าจะวางราบพื้นพอดี
4.เลือกนั่งชักโครกเสมอเวลาที่ต้องทำธุระ และควรมีที่จับเพื่อใช้พยุงตัว
5.ควรนอนบนเตียง ที่มีความสูงระดับเข่า เพื่อให้เวลานั่งแล้วสามารถห้อยขาที่ขอบเตียงได้ ฝ่าเท้าจะได้แตะพื้นพอดี
6.หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได เพราะจะยิ่งเพิ่มแรงกดที่เข่าได้ถึง 3 เท่าของน้ำหนักตัว
7.หลีกเลี่ยงการเดินบนพื้นที่ไม่เสมอกัน หรือบันได ควรเดินบนพื้นราบ
8.เลือกใส่รองเท้าที่มีพื้นนุ่มพอสมควร ไม่มีส้นรองเท้าและมีขนาดกระชับพอดี
9.หากมีอาการปวดมาก หรือข้อเข่าโก่งผิดรูป ให้ใช้ไม้เท้าช่วยเพื่อช่วยรับน้ำหนัก และช่วยพยุงตัวป้องกันการหกล้ม
10.รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีแคลเซียมบำรุงระบบกระดูก และข้อต่อ เช่น นม งาดำ ปลาเล็กๆ เป็นต้น อาหารที่ให้โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ เมล็ดถั่ว เต้าหู้ ฯลฯ จะช่วยเร่งการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อทำให้เส้นเอ็นแข็งแรงขึ้นได้
11.หมั่นบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรง เลือกออกกำลังกายที่ไม่ต้องลงน้ำหนักมาก เช่น ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน และหยุดทันทีที่รู้สึกเจ็บปวด
เพราะข้อเข่านั้นเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สำคัญ หากเกิดภาวะเข่าเสื่อมขึ้น ต้องทำให้คุณต้องเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา หากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายจนรักษาไม่ได้ ทางที่ดีคือคุณต้องใส่ใจดูแลข้อเข่า และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีอย่างเร่งด่วนค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com