อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
อาการแสดงที่สำคัญ คือ ไอ อาจแบ่งลักษณะอาการ คือ
1.หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน เด็กจะมีอาการไอและจะมีเสมหะร่วมด้วย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียก็ได้ ถ้าลักษณะเสมหะมีสีขุ่น เหลืองหรือเขียว
แสดงว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย อาการไข้ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการก็จะดีขึ้นและหายภายในไม่เกินใน 1-2 สัปดาห์
2.หลอดลมอักเสบเรื้อรัง เด็กจะมีอาการไอเรื้อรัง เป็นอยู่นานเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือนๆ และมักจะมีเสมหะร่วมด้วย ซึ่งอาจจะมีสาเหตุได้ต่างๆ ดังนี้ คือ
2.1.เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทั่วไป เช่น วัณโรค โรคไอกรน หรือเชื้อไมโครพลาสมา
2.2.เกิดจากการอุดกลั้นทางเดินลมหายใจบางส่วน เช่น มีต่อมน้ำเหลืองมากดหรือมีความผิดปกติของหลอดลมมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เกิดการสำลักได้ง่าย และทำให้มีการอักเสบของหลอดลม
2.3.เด็กอาจจะมีการสำลักเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลม เช่น เมล็ดผลไม้
2.4.เกิดจากโรคภูมิแพ้ เด็กมักจะมีอาการไอเวลาที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ในเวลากลางคืน หรือเช้ามืด และภายหลังการออกกำลังกายหรือเล่นมากๆ
จะไอมีเสมหะหรือไอมากจนอาเจียน เสมหะมักจะใส และมักจะไม่มีไข้ รวมทั้งอาจจะมีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว เด็กในกลุ่มนี้จะมีอาการไอเกิดเนื่องจากมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลม
2.5.ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีน้ำมูกไหลลงคออยู่บ่อยๆ ทำให้กระตุ้นให้เกิดอาการไอ
การรักษา คือ1.การใช้ยาปฏิชีวนะในรายที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย
2.ยาแก้ไอในเด็กที่ควรใช้และมีประโยชน์ คือ ยาที่จะทำให้เด็กสามารถไอ และขับเสมหะออกได้ดี ได้แก่ ยาจำพวกขยายหลอดลม ยาขับเสมหะ และยาละลายเสมหะ
ซึ่งมีขายกันอย่างแพร่หลายในท้องตลาด ซึ่งแตกต่างกันทั้งรสชาติ ราคาและประสิทธิภาพ
สำหรับยาจำพวกกดอาการไอนั้นไม่ควรใช้เลย เพราะจะทำให้มีเสมหะค้างในปอด ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ปอดแฟบ หรือปอดอักเสบ
3.ควรให้เด็กดื่มน้ำมากๆ
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน โดย รศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์