Loading...

HEALTH CORNER

อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี

สัญญาณเตือนภัย "อัมพฤกษ์ อัมพาต"

พูดไม่ชัด แขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือชาที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด ถือเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามสาเหตุของการเกิดคือ

 

1.      โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน พบประมาณร้อยละ 75 ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โดยอาจจะมีสาเหตุมาจากการหนาตัวจนเกิดการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวและควบคุมได้ไม่ดี

 

เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ หรือในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจะมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดในหัวใจและหลุดลอยไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น

 

2.      โรคหลอดเลือดสมองแตก ถึงแม้จะพบน้อยกว่าโรคหลอดเลือดสมองตีบ แต่มีความรุนแรงมากกว่าโดยพบโรคหลอดเลือดสมองแตกประมาณร้อยละ 30 อาการของโรคจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีการแตกของหลอดเลือด และตำแหน่งที่ลิ่มเลือดอยู่

 

โดยอาจจะมีสาเหตุมาจากความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ไม่ดี หรือในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของผนังหลอดเลือดทำให้มีหลอดเลือดโป่งพองจนเกิดการแตก เมื่อมีเลือดออกในสมอง จะทำให้เกิดการกดเบียดเนื้อสมองข้างเคียง หรือทำให้การไหลเวียนเลือดในสมองผิดปกติ

 

ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับอาการเส้นเลือดสมองตีบหรืออุดตัน แต่อาจจะมีอาการมากกว่า ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนพุ่ง ความรู้สึกตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากรักษาช้า อัตราความพิการหรือเสียชีวิตก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

 

นอกจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในผู้ป่วยที่เคยมีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง

 

ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ

 

โรคอัมพฤกษ์ อัมพาตสามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และสังเกตอาการโดยใช้วิธีการจดจำอย่างง่ายจากอักษรย่อ “F.A.S.T.”

 

F = Face มุมปากตกหนึ่งข้างเวลาอยุ่เฉยๆหรือเวลายิ้ม

A = Arms ยกแขนไม่ขึ้นหรืออ่อนแรง 1 ข้าง

S = Speech ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้หรือฟังไม่รู้เรื่อง

T = time ผู้มีอาการดังกล่าวต้องรีบไปโรงพยาบาลภายในเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งหรือโดยเร็วที่สุด เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงของความพิการที่อาจจะเกิดขึ้นและรักษาชีวิตของผู้ป่วยไว้ได้

 

ทั้งนี้ หากมีอาการดังกล่าวสามารถโทรสายด่วน 1669 ให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศนอกจากนี้

 

ควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผักผลไม้ ควบคุมนํ้าหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอ งดลดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และการตรวจสุขภาพประจำปี

 

ขอขอบคุณข้อมูล : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข