HEALTH CORNER

ความรู้สึกปวดบริเวณข้อ โดยเฉพาะข้อเข่า และข้อสะโพก ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อรู้สึกปวดข้อ ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเพราะตัวเองอายุมากขึ้นจึงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ซึ่งจริงๆแล้วก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะความเป็นจริงแล้วอาการปวดข้อ เกิดขึ้นได้ในหลายๆสาเหตุ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เกี่ยวกับอายุเลย

อาการปวดข้อที่เป็นๆกันนั้น เกิดจากการอักเสบของข้อ ซึ่งอาจหมายถึงส่วนประกอบของข้อทั้งหมด เช่น ผิวข้อที่เป็นกระดูกอ่อน หมอนรองข้อ หรือเส้นเอ็นบริเวณข้อ

ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ ข้ออักเสบจากภาวะข้อเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ และข้ออักเสบจากโรคเกาต์ 

ส่วนการติดเชื้อ โรคภูมิแพ้บางชนิด โรคผิวหนังและโรคอื่น ๆ ซึ่งหากเรื้อรังเป็นเวลานานก็จะกลายเป็นสาเหตุของภาวะข้อเสื่อมได้เช่นกัน วิธีการรักษานั้น

บางคนอาจจะทานยาบรรเทาอาการปวดแล้วไม่ยอมไปพบแพทย์ ซึ่งจะทำให้ต้นต่อของการปวดข้อนั้นไม่ได้ถูกรักษาจริงๆ ซึ่งทางที่ดีเราควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและแก้ไขต้นตอที่แท้จริงดีกว่า

วิธีที่สามารถช่วยลดอาการปวดข้อมีดังนี้

1. ลดน้ำหนัก เพราะน้ำหนักที่เกินจะไปเพิ่มแรงกดข้อเข่าถึง 4 เท่าเวลาเดิน

2. ทานผักผลไม้ทั้งผล สารต้านอนุมูลอิสระในผักผลไม้จะช่วยชะลอข้อเสื่อม ลดอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์ และเกาต์

3.ทานผักใบเขียวสีเข้ม เช่น บร็อคโคลี, ผักโขม, กะหล่ำปลี ฯลฯ เพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

4. ทานน้ำมันปลา 2-4 ครั้งต่อสัปดาห์

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะตื่นนอนตอนเช้า ให้รีบบ้วนปาก แล้วดื่มน้ำตามทันที เพราะช่วงตลอดการนอนหลับ กระดูกอ่อนในข้อไม่มีเลือดไปเลี้ยงโดยตรง อาศัยการดูดซับออกซิเจน น้ำ และสารอาหารจากน้ำไขข้อ

6. อย่านั่งหรือยืนนิ่งๆ นานเกิน 1-2 ชั่วโมง เนื่องจากข้อที่อยู่นิ่งจะขาดอาหาร และออกซิเจนทำให้มีแต่น้ำเลี้ยงเก่าไม่มีน้ำเลี้ยงใหม่ไปทดแทน

7. ลดการใช้น้ำมันพืช จำพวกน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันกลุ่มนี้ไขมันอิ่มตัวสูง

9.การประคบร้อนจะช่วยลดอาการปวดข้อ หรืออาการปวดเรื้อรังได้

10. ออกกำลังกายเช่น มวยจีน ไทเกก ไทชิ โยคะ

11. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายข้อ อาทิ นั่งยอง ๆ วิ่งขึ้นลงบันได นั่งขัดสมาธิ พับเพียบ หรือนั่งกับพื้น เป็นต้น

อาการปวดข้อนั้น อย่ามองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการปล่อยไว้ เรื่องเล็ก ๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตคุณได้ทีเดียว

CR : FB : everyhowto