อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
เป็นผลมาจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างหย่อนตัวลง ทำให้มีน้ำย่อยหรือกรดไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหารได้นั่นเอง
สาเหตุอีกหนึ่งอย่างของการเกิดโรคกรดไหลย้อนนั้น มาจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
ทานของเปรี้ยว เผ็ด ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม สูบบุหรี่ และรับประทานอาหารแล้วนอนทันที ไม่ได้รอให้อาหารเคลื่อนตัวลงไปยังกระเพาะ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
โรคกรดไหลย้อนปล่อยไว้เป็นมะเร็งได้จริงหรือ? มาฟังคำตอบจาก อ.พญ. นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล ภาควิชาโสต ศอ นาสิก วิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายเรื่องกรดไหลย้อนนี้กัน
กรดไหลย้อนนั้น จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังบริเวณหลอดอาหาร และบริเวณกล่องเสียง ซึ่งถ้าหากมีการอักเสบเรื้อรังไปนานๆ
จะทำให้เซลส์บริเวณเยื่อบุผิวมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลส์มะเร็งได้ แต่ว่ามีโอกาสไม่เยอะมาก แค่ประมาณ 1-6% เท่านั้น
การรักษาอันดับแรกเลยคือ ต้องควบคุมอาหาร พวกอาหารเปรี้ยว เผ็ด ชา กาแฟ น้ำอัดลม ของมัน ของทอด ควรงดน้อยลง
ต่อมาคือเวลาทานอาหารแล้วอย่าพึ่งล้มตัวลงนอนต้องเว้นไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง ให้อาหารเคลื่อนตัวไปยังกระเพาะเรียบร้อยก่อน
แต่สำหรับคนไข้ที่เป็นกรดไหลย้อน และกลายเป็นมะเร็งแล้ว(ส่วนใหญ่จะเกิดที่หลอดอาหาร) นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว ก็จะใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัด
แต่หากเป็นมะเร็งระยะหลังๆ อาจจะต้องใช้วิธีการฉายแสงและใช้เคมีบำบัดร่วมด้วย
วิธีสังเกตว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อนหรือไม่ ให้ดูว่าเรามีอาการแสบคอเจ็บคอเรื้อรัง อาการเรอเปรี้ยวเรื้อรัง อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก อาการไอเรื้อรัง
หรือมีอาการเหล่านี้มากขึ้นหลังจากเราทานอาหารไปแล้ว หากมีให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและคำแนะนำจาก : อ.พญ. นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่มา : Rama Focus โรคกรดไหลย้อนปล่อยไว้เสี่ยงมะเร็ง