อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี
ก็เป็นคนหนึ่งที่เสพติดบิ๊กอายถึงขั้นอยู่บ้านยังต้องใส่ เพื่อให้ตัวเองมีความมั่นใจ และจากการที่เธอได้ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนี้มานานถึง 8 ปีเต็ม ก็ทำให้เธอเจอปัญหาสารพัดกับดวงตา
จึงได้โพสต์กระทู้ลงในเว็บไซต์พันทิป เพื่อเตือนให้คนที่ชอบใส่บิ๊กอายให้ใส่ใจดวงตาของตัวเองสักหน่อย ก่อนจะเกิดปัญหากับดวงตาถึงขั้นร้ายแรง
ตอนนี้อายุ 23 ปี แต่ตาเริ่มมีปัญหา เชื่อว่าสาวๆ หรือหนุ่มๆ หลายคนคงรู้จักไอเทมนี้ดี บางคนถึงกับขาดไม่ได้ เป็นปัจจัย 5 เลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ได้ใส่บิ๊กอายฉันจะไม่ออกบ้าน
ไม่มั่นใจอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับดิฉันในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ที่ไม่ใส่เลยไม่ได้ ยกเว้นก็ตอนนอนเท่านั้น ถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดลืมเอาไปก็ต้องซื้อใหม่ทันที
สมัยนั้นบิ๊กอายตกคู่ละประมาณ 699 บาท (ราคาเริ่มต้น) ของดีมียี่ห้อ แต่ก่อนไม่มีขายตามข้างทาง ต้องซื้อจากร้านแว่นเท่านั้น สมัยนั้นอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้ใช้ง่ายเหมือนทุกวันนี้
เรื่องการดูแลทำความสะอาด ปีแรกๆก็ยังดีอยู่ แต่ปีหลังๆ ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ จากถูเลนส์หน้าหลังก่อนแช่ และก่อนใส่ ก็ไม่ทำ ใส่เสร็จแล้วถอดแช่เลย (เป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์)
ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ติดบิ๊กอาย คือ
1. ตาลอย
2. หางตาตก (ทำให้ตาดูลอยมากขึ้น)
3. ไม่ใส่แล้วเพื่อนทักว่าเหมือนคนติดยา เหมือนคนเหม่อลอยตลอดเวลา
4. พื้นที่ตาขาวมันมีเยอะกว่าตาดำ ตาดำไม่โต
สาเหตุรองลงมาคือ
1. ตอนนั้นเป็นช่วงวัยรุ่นตอนต้น ยังไม่รู้จักเมคอัพ เลยพยายามทำให้ตัวเองดูดี ใส่บิ๊กอายแล้วมั่นใจมากขึ้น
2. มันดูแบ๊วๆ น่ารัก
3. คนจะทักว่าตาโตสวย
เวลาผ่านไปจน 5-6 ปีก็แล้ว คิดว่าจะเลิกใส่ก็เลิกไม่ได้ไม่มีความมั่นใจ ต้องใส่เวลาไม่ใส่แล้ว เรามีความรู้สึกว่า ไม่กล้าสบตาใคร กลัวเค้าทักว่าอย่างนั้นอย่างนี้
มันเหมือนกับเป็นปมด้อย จนเข้า 8 ปีที่ใส่ เราเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของตาตัวเอง ทั้งอาการหลาย ๆ อย่าง รวมถึงตาดำที่เปลี่ยนไป
ประมาณเรียนอยู่ปี 3 เริ่มสังเกตความผิดปกติของตาตัวเอง ว่าขอบตาดำมันไม่ชัดเหมือนแต่ก่อนมันเบลอ ๆ และตาดำดูมีขนาดเล็กลง แต่ก็ยังหลอกตัวเองต่อไปว่าคงไม่มีอะไรหรอก
ความผิดปกติที่สังเกตได้
อาการตาแห้ง (ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใส่แล้ว)
แพ้แสง (ช่วงที่ใส่อยู่จะมีอาการนี้รุนแรงมาก คือไม่ใส่คอนแทคเลนส์ออกมาข้างนอกจะสู้แสงไม่ได้ ถึงขั้นน้ำตาไหลบางทีตาแดงมากๆ)
สายตาสั้น
ดวงตาเซนซิทีฟมาก โดนอะไรเข้าตานิดหน่อยจะเจ็บตา และแสบตามากกว่าปกติ
คันตา บางทีคันหัวตามากๆ ขยี้ทั้งวัน
ตอนนี้เลิกได้แล้ว ตาเริ่มดีขึ้น แต่ก่อนเพื่อนสนิทเราทักเลยว่า "คอนแทคเลนส์ดูดตาดำรึเปล่า ขอบตาดำดูเบลอๆ" เลยกลัว พยายามที่จะเลิกใส่
มันเป็นความประมาทของเราที่ดูแลไม่ดี ไม่ทำความสะอาดดี ๆ ครั้งนึงถึงขั้นคอนแทคเลนส์บาดตาขาว โชคดีที่ไม่เป็นไรมาก ตาแดงเป็นอาทิตย์
กำลังใจจากเพื่อนหรือคนรอบข้าง พูดให้กำลังใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สามารถเลิกใส่คอนเเท็กเลนส์ได้
สุดท้ายใครที่กำลังนอนกอดคอนเเท็กเลนส์อยู่ อยากบอกว่ามันอันตรายมาก มีเพื่อนบางคนเที่ยวเสร็จนอนเลยไม่ถอด ทำให้ตื่นมาคอนแท็กเลนส์หายไปหนึ่งข้าง
หาไม่เจอ จึงจะใส่เข้าไปใหม่ก็ใส่ไม่ได้ เพราะตาเคืองมาก ขยี้อยู่นานจนคอนเเท็กเลนส์ที่หายไปเลื่อนออกมาจากหลังตา
ฝากเตือนสาวๆ ด้วยนะคะ อย่าชะล่าใจ เค้าไม่บอด แต่เราอาจจะบอดได้
กระทู้นี้ดิฉันตั้งใจที่จะให้เพื่อน ๆ ที่ใส่บิ๊กอายระวังถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะอาการแย่ๆ หลายอย่างได้เกิดขึ้นกับดิฉัน ทุกวันนี้เลิกใส่ได้แล้วค่ะ
ต้องให้กำลังใจตัวเอง ต้องรู้จักชมตัวเองว่า ไม่ใส่ก็ดูดีอยู่แล้ว เพราะไม่งั้นเลิกไม่ได้แน่ๆ ก่อนที่จะสายเกินแก้ ส่วนคนที่ใส่อย่างถูกวิธี ดูแลทำความสะอาดดีอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไร
ขอให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ช่วยเตือนสาวๆ หนุ่มๆ ที่กำลังใส่อยู่ ถ้ายังไม่อยากเลิกใส่ ก็ดูแลให้ดี หมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนเลนส์ เปลี่ยนน้ำยา
อาการข้างต้น อาจจะไม่ได้เกิดกับทุกคนที่ใส่ แต่ก็ควรระมัดระวัง และใช้ของที่มีมาตราฐาน มี อย.ชัดเจน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ PAM สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม