Loading...

HEALTH CORNER

อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี

6 อาการสังเกต `โรคเลือดออกในสมอง`

พบมากในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า

 

จากตัวเลขที่มีการศึกษากันในหลายประเทศพบว่า ในประชากร 1 แสนคน จะมีผู้ป่วยโรคเลือดออกในสมองประมาณ 10-20 รายต่อปี

 

หมายถึง ในประเทศไทยจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 6,000-12,000 รายต่อปีเลยทีเดียว เพราะเหตุใด และจะป้องกันโรคนี้ได้หรือไม่

 

รศ.นพ.ประจักษ์ ศรีรพีพัฒน์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีคำตอบว่า โรคเลือดออกในสมอง

 

จัดเป็นกลุ่มหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองร่วมกับโรคสมองขาดเลือด 

 

สาเหตุหลักมาจากภาวะความเสื่อมของหลอดเลือดสมองจากอายุที่มากขึ้นร่วมกับโรคประจำตัว ที่สำคัญคือ โรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่เป็นเวลานาน

 

ภาวะแข็งตัวของเลือดบกพร่อง รวมถึงการใช้ยาป้องกันเลือดแข็งตัวบางชนิด แต่ในปัจจัยทั้งหลาย อายุที่มากขึ้นร่วมด้วยโรคความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน ยังคงเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคนี้

 

อาการของโรคเลือดออกในสมองจะมีลักษณะสำคัญคือ เฉียบพลัน และรุนแรง อาการเฉียบพลันที่สังเกตได้ เช่น

 

1.ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลัน มักมีอาการร่วมคือ คลื่นไส้ อาเจียน ชัก หรือกระทั่งหมดสติ

 

2.อ่อนแรง อัมพาต หรือปากเบี้ยวเฉียบพลัน

 

3.ชาเฉียบพลัน

 

4.พูดลำบากฉับพลัน

 

5.ตามัวมองไม่เห็นเฉียบพลัน

 

6.เสียการทรงตัว และบ้านหมุน วิงเวียนเฉียบพลัน

 

หากสงสัยว่าตนเอง หรือคนใกล้ตัวมีอาการข้างต้น ให้พบแพทย์ด่วน เพราะก้อนเลือดในสมองอาจทำให้แรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูง

 

เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ผู้ป่วยจะซึมลงจนหมดสติ หรือก้อนเลือดกดเบียดบริเวณสำคัญ เช่น ก้านสมอง ทำให้อาการทรุดลงรวดเร็ว 

 

นอกจากนี้ก้อนเลือดอาจทำลายเนื้อสมองที่สำคัญโดยตรง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นได้ 

 

ดังนั้น การรักษาผู้ป่วยอย่างเร่งด่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็น อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเลือดออก หรือใช้ยาลดแรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะ ลดสมองบวม

 

ทั้งนี้ขึ้นกับขนาด ตำแหน่ง และความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่

 

โรคเลือดออกในสมองไม่มีวิธีการรักษาใดจะดีกว่าการป้องกัน กล่าวคือ เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ต้องระวังควบคุมรักษาโรคความดันโลหิตสูงให้เคร่งครัด

 

ลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น หยุดสูบบุหรี่ โรคนี้นับเป็นภัยเงียบที่ก่อให้เกิดอันตราย การมีความรู้ความเข้าใจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล